6 เทคโนโลยี AI เสริมทัพธุรกิจคุณ ให้เหนือกว่าคู่แข่ง !

     ต้องบอกเลยว่า ยุคนี้กระแส AI มาแรงฉุดไม่อยู่จริง ๆ 

     ไม่ว่าจะทำอะไร ก็มักจะได้ยินเรื่องการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามามีส่วนร่วมด้วยเสมอ

     ซึ่งในปัจจุบัน มีผู้ทำธุรกิจไม่น้อยเลย ที่เริ่มนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการพัฒนาส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ

     แต่ทุกคนทราบไหมครับว่า ทำไมเทคโนโลยีนี้ จึงกลายเป็นกระแส และได้รับความนิยมมากขนาดนี้?

    ผมจะช่วยไขข้อข้องใจให้ทุกคนได้ทราบกันเองครับ

     สาเหตุที่เทคโนโลยี AI เริ่มกลายเป็นกระแสและได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในวงการการทำธุรกิจนั่นก็เป็นเพราะ

     เทคโนโลยี AI สามารถช่วยอำนวยความสะดวกด้านต่าง ๆ ให้กับการทำธุรกิจได้

     และยังเป็นเครื่องมือสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาส่วนต่าง ๆ ให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่นขึ้นอีกด้วย

     แต่ก่อนอื่น จะต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจ เทคโนโลยี AI กันเสียก่อน

     เพราะบางคนก็อาจจะยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นเทคโนโลยี AI ?

     เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างขึ้นให้มีความฉลาดเหมือนมนุษย์

     สามารถคิด วิเคราะห์ และแยกแยะสิ่งต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น หรือช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องต่าง ๆ ตามที่ผู้พัฒนาต้องการได้

     ต่อจากนี้จะขอเรียก AI เฉย ๆ นะครับ เพื่อให้ง่ายต่อการอ่านและทำความเข้าใจ

     ผมเชื่อว่าใคร ๆ ก็ต้องเคยได้ยินแน่ ๆ ครับ

     AI ที่กำลังมาแรง และเป็นกระแสที่ทุกคนจะต้องพูดถึงอยู่ นั่นก็คือ Generative AI

     Generative AI เป็นปัญญาประดิษฐ์รูปแบบหนึ่ง มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้

     ตัวอย่างที่ทุกคนน่าจะเคยเห็นชัดเจนเลยก็คือ การสร้างข้อความ รูปภาพ เสียง เพลง วิดีโอ  ฯลฯ

     โดย Generative AI มีหลักการทำงานด้วยการใช้เทคนิค Deep Learning วิเคราะห์วัตถุดิบข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

     จากนั้นจึงสร้างข้อมูลใหม่ที่มีลักษณะ โครงสร้าง หรือรูปแบบคล้ายกับชุดข้อมูลเดิม

     พอได้อ่านมาถึงจุดนี้แล้ว ก็คงรู้แล้วใช่ไหมครับว่า Generative AI มีประโยชน์ในด้านการทำธุรกิจมากเพียงใด

     ดังนั้นเรามาศึกษาถึงประเภทของ Generative AI กันดีกว่าครับ ทุกคนจะได้ทราบว่าควรจะหยิบ AI ประเภทไหนไปใช้ประโยชน์ได้ถูกฟังก์ชันมากที่สุด

     Generative AI ตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ธุรกิจของคุณ 6 ประเภท ได้แก่

     1. AI Search Engines  : AI สำหรับการสรุปเนื้อหาจากข้อความ

     ในอดีต Search Engines นั้นทำงานโดยการใช้เทคนิคที่เรียบง่าย มุ่งเน้นไปที่การจับคู่ Keyword ในเว็บไซต์กับคำค้นหาของผู้ใช้แบบผิวเผิน

     จากนั้นระบบก็จะทำการค้นหา Keyword นั้น หรือ Keyword ที่ใกล้เคียงมาแสดงผลแทน

     แต่ปัจจุบัน Search Engines พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมากแล้ว โดยในการแสดงผลจะมีการใช้เทคนิค AI เข้ามาช่วยระบบของ Search Engines

    เช่น 

          Microsoft Bing ที่ใส่ Keyword แล้ว ระบบจะไม่ได้หาเพียงแค่เว็บนั้น ๆ ออกมา แต่ AI จะช่วยสรุปเนื้อหา และหาโพสต์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกันมาให้ด้วย

     2. AI Presentation  : AI สำหรับการนำเสนอจากข้อความ

     บางคนก็มักจะประสบปัญหาในการสร้างสไลด์เอกสารเพื่อการนำเสนอ แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปนะครับ

      มีแพลตฟอร์มมากมาย ที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยให้การทำสไลด์เป็นไปได้ง่ายขึ้น และไวขึ้น 

     ทั้งยังมีการแบ่งหมวดหมู่ และการตกแต่งความสวยงาม ตามประเภทของงานที่ต้องการนำเสนออีก

    เช่น

     Canva

     และ Gamma.app

     3. AI Chat Bot : AI สำหรับการตอบคำถามจากข้อความ

     เป็นการชุดคำตอบที่ได้มาจากการจำลองการสนทนาที่มีฐานข้อมูลในระดับมหาศาล

     โดย Chat Bot มีกระบวนการเรียนรู้จากฟังก์ชันของระบบ และนำคำตอบที่ได้จากการวิเคราะห์ฐานข้อมูลเหล่านั้นมาตอบ

     ช่วยให้เราสามารถหาคำตอบจากเรื่องที่เราต้องการรู้ และส่งผลให้เราสามารถทำงานได้หลากหลายมากขั้น

     ประโยชน์ของ Chat Bot คือ ช่วยตอบคำถาม ช่วยเขียนอีเมล บทความ โพสต์ แคปชั่น หรือการช่วยสรุปและเรียบเรียงเนื้อหาก็เป็นเรื่องที่ Chat Bot ก็ทำได้

     4. AI Image : AI สำหรับการสร้างรูปภาพจากข้อความ

     AI  ที่เป็นกระแสอยู่เรื่อยมาคือ AI ที่ช่วยในการสร้างรูปภาพออกมาจากการกรอกคำสั่ง

     และมีอยู่หลากหลายแนว เช่น ภาพเหมือน ภาพสเก็ตช์ ภาพสีน้ำมัน หรือภาพแนวAbstract ฯลฯ

     AI ประเภทนี้มีจุดเด่นที่สำคัญเลยคือ ใช้เวลาไม่นานแต่ก็ผลิตรูปภาพออกมาได้สมบูรณ์แบบ

     เรียกได้ว่า เพียงมีความสามารถในการควบคุมคำสั่งและมีไอเดียจินตนาการ ก็สามารถใช้ AI ให้วาดรูปออกมาได้ง่าย ๆ แล้ว

     โดย AI ที่สามารถวาดรูปได้ เช่น Midjourney , Stability AI หรือ Stable Diffusion , ImgCreator.AI ฯลฯ

ตัวอย่างภาพจาก Midjourney

    5. AI Sound : AI สำหรับการสร้างเสียงจากข้อความ

     เป็น AI สำหรับสร้างเสียงจากข้อความ ช่วยให้เราสร้างเสียงพากย์หลาย ๆ ภาษา เพิ่มเข้าไปในวิดีโอได้

     นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการถอดบทพูดจากวิดีโอได้ อย่างเช่น Eleven Lab หรือ Rask AI

ภาพตัวอย่างจาก ElevenLabs 

    6. AI Video : AI สำหรับการสร้างวิดีโอจากข้อความ

    สำหรับบางธุรกิจ เนื้อหาที่อยู่ในรูปแบบของวิดีโอเองก็มีความสำคัญกับธุรกิจเช่นกันนะครับ 

     มีรายงานให้เห็นมากกว่า 80 % ของการเข้าชมสื่อออนไลน์ โดยมีการเน้นการเข้าชมแบบวิดีโอกันเป็นหลัก

     การแนะนำสำหรับ AI ที่นิยมในการทำวิดีโอ ผมจึงอยากแนะนำ Pictory AI เครื่องมือ AI ออนไลน์ และ SORA โมเดล AI ใหม่จาก OpenAI

     ซึ่งทั้งสองนั้น สามารถเปลี่ยนข้อความ บทความ หรือ Podcast ให้สามารถกลายเป็นวิดีโอได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องมีทักษะการตัดวิดีโอเลย

ภาพตัวอย่างจาก Pictory AI 

     หลังจากได้ศึกษา Generative AI มาแรงประเภทต่าง ๆ แล้ว ทุกคนก็คงจะสามารถสังเกตได้นะครับ

     ว่า Generative AI มีประโยชน์ต่อธุรกิจของเรามาก และเราสามารถนำ AI มาช่วยในการทำงานได้หลากหลายมากแค่ไหน

     แต่การจะใช้ AI ให้เกิดผลลัพธ์ได้ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายและทำได้ในทันที

     ผู้ที่ทำงานในด้านนี้จึงควรเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือผู้ที่มีประสบการณ์ และความชำนาญในด้านนี้โดยเฉพาะ

     จึงจะสามารถเข้าใจวิธีการทำงานและสามารถเลือกใช้ AI ที่เหมาะสมให้กับธุรกิจของคุณได้

     นอกจากนี้ยังมีเรื่องการวิเคราะห์ตีความข้อมูล รวมไปถึงการติดตามผลลัพธ์และปรับแต่ง AI ให้เหมาะสมตามสถานการณ์

     หากผู้ทำธุรกิจมีความสนใจในการใช้ AI เข้ามาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ ก็สามารถทำได้จากการศึกษาบทความนี้นะครับ

     แต่ถ้าหากคุณศึกษาดูแล้ว รู้สึกว่ายุ่งยาก และไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง ติดต่อเราสิครับ เราเป็นทีมงานมืออาชีพที่สามารถช่วยในซัพพอร์ตด้านการตลาดให้กับธุรกิจของคุณได้ โดยเฉพาะเรื่องการทำการตลาดออนไลน์ ลองปรึกษาเราได้ครับ

เพียงคลิก 🔻

IMPEL MARKETING บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์

IMPEL MARKETING จากประสบการณ์ ด้านการตลาดออนไลน์มากกว่า 10 ปี

เราจะให้คำปรึกษาถึงแก่นการทำตลาดออนไลน์ให้คุณมียอดขายถึงขีดสูงสุดในทุกประเภทสินค้าและบริการ

การันตีผลงานทีมงานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีเราสร้างยอดขายให้ธุรกิจมากกว่า 10 แบรนด์ ยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท