 
															              Meta Description อาจดูเหมือนเพียงแค่ “คำอธิบายสั้น ๆ ใต้ลิงก์” ในหน้าผลการค้นหา
แต่ในโลกของ SEO และการตลาดออนไลน์ มันคือพื้นที่โฆษณาเล็ก ๆ ที่สามารถเปลี่ยน “การมองผ่าน” ให้กลายเป็น “การคลิก”
ถ้าเปรียบการทำเว็บไซต์เหมือนการเปิดร้าน Meta Description ก็คือ “หน้าร้าน” ที่บอกลูกค้าว่าเราขายอะไร และทำไมเขาควรแวะมาดู
 
															Meta Description คือแท็ก HTML ที่ให้คำอธิบายสั้น ๆ ของเนื้อหาในแต่ละหน้า แม้ว่า Google จะไม่ใช้ Meta Description โดยตรงในการจัดอันดับ SEO แต่คำอธิบายที่เขียนดีสามารถเพิ่ม CTR (Click Through Rate) ได้ ซึ่งถือเป็นสัญญาณทางอ้อมที่มีผลต่ออันดับการค้นหาในระยะยาว
คุณสมบัติของ Meta Description ที่ดี
ยาวพอดี ไม่เกิน 155-160 ตัวอักษร (ภาษาอังกฤษ) : หรือประมาณ 100-120 ตัวอักษรเมื่อเขียนเป็นภาษาไทย
สรุปใจความได้ชัดเจน : ว่าเนื้อหาในหน้านั้นเกี่ยวกับอะไร
ใช้คีย์เวิร์ดหลัก : ที่เกี่ยวข้องกับคำที่ผู้ใช้มักจะค้นหา
เขียนให้น่าสนใจ : กระตุ้นความอยากรู้หรือชวนให้คลิก
ไม่ซ้ำกับหน้าอื่น ๆ : ทุกหน้าในเว็บไซต์ควรมีคำอธิบายเฉพาะของตัวเอง
1. เขียนแบบโฆษณาเล็ก ๆ
คิดว่า Meta Description คือข้อความโฆษณาเพียงหนึ่งบรรทัด จึงควรเขียนด้วยภาษาที่ ชวนคลิก เช่น
- “เคล็ดลับลดน้ำหนักที่ใช้ได้จริง เห็นผลใน 14 วัน ลองเลย” 
- “รวม 10 ร้านกาแฟลับในเชียงใหม่ ที่สายคาเฟ่ไม่ควรพลาด” 
2. ใส่คีย์เวิร์ดอย่างแนบเนียน
Google จะ เน้นคีย์เวิร์ดเป็นตัวหนา ใน Meta Description หากตรงกับคำค้นหาของผู้ใช้
ควรใช้คีย์เวิร์ดหลักที่สอดคล้องกับเนื้อหาและคำค้น เช่น:
- “บริการรับทำ SEO สำหรับธุรกิจท้องถิ่น เพิ่มยอดขายได้ใน 3 เดือน”
3. ตอบคำถาม หรือแก้ปัญหา
ผู้ใช้ค้นหาเพราะมีคำถามหรือปัญหา Meta Description ที่ดีควร สื่อให้รู้ว่าในหน้านั้นมีคำตอบ
- “ไม่รู้จะเริ่มเขียนบทความยังไง? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับมือใหม่อยู่ที่นี่แล้ว” 
4. ใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจ (Call to Action)
คำอย่าง “คลิกเลย”, “ดูเพิ่มเติม”, “อ่านฟรี”, “โหลดตอนนี้” ช่วยกระตุ้นการคลิกได้ดี
แต่อย่าใช้เว่อร์เกินไปจนดูหลอกลวง
- “โหลดเทมเพลต Resume ฟรี พร้อมตัวอย่างจริง ใช้งานได้ทันที” 
5. อย่าใช้ข้อความ Clickbait ที่ไม่ตรงเนื้อหา
Meta Description ต้องสะท้อนเนื้อหาจริงในหน้าเพจ
ถ้าเขียนเกินจริงเพื่อให้คลิก แต่เข้าไปแล้วไม่ใช่ตามที่หวัง Google อาจลดอันดับ และผู้ใช้จะกดออกทันที (Bounce Rate สูง)
ตัวอย่าง Meta Description ที่ดี
หน้าเพจ: บทความรีวิวกล้องถ่ายรูป
“รีวิวกล้องถ่ายรูป 2024 เปรียบเทียบรุ่นยอดนิยม พร้อมข้อดีข้อเสีย ช่วยคุณตัดสินใจเลือกกล้องที่ใช่ได้ง่ายขึ้น”
หน้าเพจ: หน้าโปรโมชัน
“ลดสูงสุด 50% สำหรับเสื้อผ้าคอลเลกชันใหม่ ช้อปออนไลน์ได้แล้ววันนี้ พร้อมส่งฟรีทั่วไทย”
ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง
- คัดลอกจากเนื้อหาในหน้าเพจมาแบบดิบ ๆ 
- ใช้คีย์เวิร์ดซ้ำ ๆ จนอ่านไม่รู้เรื่อง 
- เขียนคลุมเครือ ไม่รู้ว่าเพจพูดเรื่องอะไร 
- ปล่อยให้ Meta Description เป็นช่องว่าง (Google จะสร้างข้อความสุ่มให้เอง ซึ่งมักไม่น่าสนใจ) 
สรุป
              Meta Description เป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่สร้างผลลัพธ์ใหญ่ได้
เพียงคุณเขียนให้ “ตรงประเด็น” “น่าสนใจ” และ “สื่อสารได้ชัดเจน” ก็สามารถเพิ่มโอกาสในการคลิก และทำให้หน้าเพจของคุณโดดเด่นขึ้นบนหน้าผลการค้นหา
ในโลกที่ทุกลิงก์แข่งกันแย่งความสนใจ Meta Description ที่เขียนดี คืออาวุธลับที่คุณควรใช้ให้เป็น
ติดต่อเราได้ที่นี่🔻
IMPEL MARKETING บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์
IMPEL MARKETING จากประสบการณ์ ด้านการตลาดออนไลน์มากกว่า 10 ปี
เราจะให้คำปรึกษาถึงแก่นการทำตลาดออนไลน์ให้คุณมียอดขายถึงขีดสูงสุดในทุกประเภทสินค้าและบริการ
- รับปรึกษาการตลาดสำหรับแบรนด์
- บริการโฆษณาออนไลน์
- รับทำเว็บไซต์
- รับเขียน App และระบบ IT สำหรับธุรกิจ SME
- รับทำ Content Marketing
- รับออกแบบกราฟิก / ทำสื่อสิ่งพิมพ์
- รับตัดต่อ ถ่ายภาพ / VDO / สื่อภาพเคลื่อนไหว
- รับแปล VDO หรือเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย
การันตีผลงานทีมงานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีเราสร้างยอดขายให้ธุรกิจมากกว่า 10 แบรนด์ ยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท

