อยากเป็นนักการตลาด SEO พลาดสิ่งนี้ไม่ได้ !
เป็นไปไม่ได้เลยที่นักการตลาด SEO (Search Engine Optimization) จะไม่รู้จักการทำ Keyword Research
หากคุณเป็นนักการตลาด SEO มือใหม่และเพิ่งเริ่มต้นศึกษาการทำ SEO อย่างจริงจัง ผมขอแนะนำให้ทุกคนเรียนรู้ว่า Keyword Research คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกันก่อนนะครับ
Keyword Research เป็นส่วนสำคัญที่นักการตลาด SEO ทุกคนต้องรู้จัก
Keyword Research คืออะไร?
Keyword
ในด้านการตลาดออนไลน์ Keyword คือ คำ หรือวลีสำคัญ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดเนื้อหาในการสร้างบทความ หรือคอนเทนต์ ว่าสิ่งเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับอะไร และต้องการสื่อในสิ่งใด
และ Keyword ยังหมายถึง คำค้นหาที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูลบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหามากที่สุดอีกด้วย
เช่น หากแม่ค้าออนไลน์ต้องการหาคลังสินค้าเพื่อจัดเก็บสินค้า Keyword ก็คือ “คลังสินค้าออนไลน์” “คลังสินค้า”
จากที่กล่าวมาข้างต้น Keyword Research จึงหมายถึง การค้นหา และวิเคราะห์ Keyword ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจออนไลน์ของคุณ
เพื่อใช้เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเนื้อหาของบทความ หรือคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ให้สามารถติดอันดับบนหน้าการค้นหาของแพลตฟอร์มนั้น ๆ ได้
Keyword Research จึงกลายเป็นหัวใจหลัก ที่จะช่วยผลักดันให้การทำ SEO ของคุณเกิดประสิทธิภาพได้มากที่สุด
เมื่อทุกคนทราบความหมายของ Keyword Research แล้ว เรามาเรียนรู้ความสำคัญกันต่อเลยนะครับ
ความสำคัญของการทำ Keyword Research
Keyword Research มีความสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาธุรกิจออนไลน์ให้เติบโตขึ้นได้บนการตลาดออนไลน์ เพราะประโยชน์ของการทำ Keyword Research จะทำให้คุณเข้าใจการตลาดได้ดียิ่งขึ้นว่าควรใช้ Keyword ให้เหมาะสมกับการสร้างเนื้อหาบทความ หรือคอนเทนต์
และการทำ Keyword Research จะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าชมจากการแสดงบทความ หรือคอนเทนต์บนผลการค้นหาหน้าแรกของแพลตฟอร์มออนไลน์
เนื่องจาก Keyword ที่เลือกนั้นจะส่งผลโดยตรงต่อการทำ SEO และทำให้การจัดการแคมเปญการตลาดออนไลน์สามารถเกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เทคนิคการทำ keyword Research ง่ายๆ ที่นักการตลาดมือใหม่ควรรู้จัก
1.การทำความเข้าใจในธุรกิจของตนเองและกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นแรกของการทำ keyword Research มีสิ่งที่นักการตลาด SEO มือใหม่จะต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจนก่อน นั่นก็คือ ธุรกิจของตนเอง และ กลุ่มเป้าหมาย
หากต้องการให้ธุรกิจออนไลน์ ก็ต้องรู้จักธุรกิจของตนให้ดีเสียก่อน
เป็นการเริ่มต้นง่าย ๆ จากการทำความเข้าใจในธุรกิจตนเอง เช่น ธุรกิจมีเป้าหมายใด, ขายอะไร, เพื่อกลุ่มเป้าหมายใด, มีจุดแข็งและจุดอ่อนอะไร และ ฯลฯ เป็นต้น
ส่วนนี้ทุกคนคงจะเข้าใจกันอยู่แล้วนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากที่สุด ยิ่งรู้จักตนเองดีมากแค่ไหน คุณก็จะยิ่งทำให้ทุกคนมองเห็นถึงข้อได้เปรียบและช่องทางการทำธุรกิจต่อได้ไม่ยากเลย
และเมื่อเข้าใจธุรกิจของตนเองแล้ว ก็ต้องทำความเข้าใจกับกลุ่มเป้าหมายด้วย
การทำธุรกิจออนไลน์จำเป็นอย่างมากที่จะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เช่น เพศ, รายได้, ช่วงวัย, ความสนใจ, และปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายอาจมี เป็นต้น
ส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ เพราะข้อมูลนี้สามารถบ่งบอกได้ว่ากลุ่มเป้าหมายต้องการอะไร ซึ่งในการทำ SEO จะช่วยบอกได้ว่ากลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มจะเข้าเยี่ยมชมเนื้อหาบทความ หรือคอนเทนต์ที่คุณสร้างได้มาก หรือน้อย
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ผมจะแถมเรื่องสุดท้ายที่ถ้าหากคุณรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ส่วนสุดท้ายที่คุณควรทำความรู้จักไว้ก็คือ คู่แข่ง เป็นการวิเคราะห์ว่าคู่แข่งกำลังทำอะไรอยู่
เนื่องจากข้อมูลส่วนนี้ สามารถช่วยเสริมให้การทำ Keyword Research มีความละเอียดมากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ
เมื่อทำความเข้าใจในข้อนี้กันแล้ว ไปลุยกันในข้อต่อไปกันเลยครับ
2.รู้จักเลือกใช้เครื่องมือค้นหา Keyword
การทำ keyword Research ในยุคนี้ไม่ยุ่งยากเหมือนหลายปีที่ผ่านมาอีกต่อไป เพราะใคร ๆ ก็อยากทำธุรกิจออนไลน์ให้เติบโตได้เหมือนกัน จึงได้มีการคิดค้นเครื่องมือมากมายที่จะช่วยผ่อนแรงให้การทำ SEO สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ผมจึงได้จัดเครื่องมือค้นหา Keyword ยอดนิยมมาให้ทุกคนเลือกใช้ครับ
- Google Keyword Planner : เครื่องมือค้นหา Keyword ฟรีจาก Google เหมาะสำหรับการวิเคราะห์ Keyword สำหรับใช้กับ Google Ads
- Ubersuggest : เครื่องมือค้นหา Keyword ฟรี ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา แนวโน้ม และ Keyword ที่เกี่ยวข้องให้คุณทราบ
- Keyword Tool : เครื่องมือค้นหา Keyword ฟรี ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา และ Keyword ที่เกี่ยวข้องให้คุณทราบ
- Ahrefs Keyword Explorer : เครื่องมือค้นหา Keyword ระดับมืออาชีพนิยมใช้ เนื่องจากจะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา ความยากในการจัดอันดับ และ Keyword ที่เกี่ยวข้องให้คุณทราบ
- SEMrush Keyword Magic Tool : เครื่องมือค้นหา Keyword ระดับมืออาชีพนิยมใช้ ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา ค่า CPC และ Keyword ที่เกี่ยวข้องให้คุณทราบ
- Moz Keyword Explorer : เครื่องมือค้นหา Keyword ระดับมืออาชีพนิยมใช้ ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา ความยากในการจัดอันดับ และ Keyword ที่เกี่ยวข้อง
- KWFinder : เครื่องมือค้นหา Keyword ระดับมืออาชีพนิยมใช้ ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา ค่า CPC และ Keyword ที่เกี่ยวข้องให้คุณทราบ
- Long Tail Pro : เครื่องมือค้นหา Keyword ระดับมืออาชีพนิยมใช้ ที่จะแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหา ค่า CPC และ Keyword ที่เกี่ยวข้องให้คุณทราบ
- AnswerThePublic : เครื่องมือค้นหา Keyword ที่จะแสดงข้อมูลคำถามที่ผู้คนค้นหาเกี่ยวกับหัวข้อที่คุณเลือก
- Soovle : เครื่องมือค้นหา Keyword ที่จะแสดงข้อมูล Keyword ที่เกี่ยวข้องจากแพลตฟอร์ม Google, Amazon, YouTube และ Bing
โดยเครื่องมือค้นหา Keyword ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานกันมากมาย แต่ละเครื่องมือก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกันโดยเครื่องมือค้นหา Keyword ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานกันมากมาย แต่ละเครื่องมือก็มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน
ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องมือค้นหา Keyword จึงควรวิเคราะห์จากความเหมาะสมต่อความต้องการของธุรกิจของคุณนะครับ
3.วิเคราะห์และเลือก Keyword
เมื่อได้ข้อมูลผ่านการใช้เครื่องมือในข้อที่ผ่านมาแล้ว จากนั้นจึงทำการพิจารณาเลือกใช้ Keyword ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
โดยการเลือก Keyword นั้น จะต้องเป็นคำ หรือวลี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา และเป็นที่นิยมมากที่สุด
เพราะ Keyword จะเป็นตัวตัดสินว่า การทำ SEO กับบทความ หรือคอนเทนต์ของคุณจะประสบความสำเร็จได้หรือไม่
4.ใช้ Keyword ในเนื้อหา
ขั้นนี้เป็นการนำข้อมูลที่ได้จากการทำ Keyword Research ซึ่งเป็น Keyword ที่ผ่านการพิจารณามาแล้ว ใส่ลงไปร่วมในเนื้อหาของบทความ หรือคอนเทนต์
โดยการสอดแทรก Keyword เหล่านี้ลงไป อาจแทรกให้มีอยู่ในทุกย่อหน้า หรือมากกว่านั้น เพื่อให้เนื้อหาและ Keyword สัมพันธ์กัน และสื่อไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งในการสร้างเนื้อหาที่ประกอบไปด้วย keyword เหล่านั้น ไม่มีกฎตายตัว ผู้เขียนบทความ หรือคอนเทนต์จึงสามารถเพิ่ม หรือปรับเปลี่ยนเนื้อหาได้ตามที่ต้องการ
5.การติดตามและประเมินผล
ขั้นนี้จะเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการทำ Keyword Research แล้วนะครับ จะเป็นการใช้เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ เพื่อเช็คผลว่า Keyword สามารถทำ SEO ได้ดีหรือเปล่า
นี่คือเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ยอดนิยมครับ
- Google Analytics : เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์ฟรีจาก Google เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ บอกพฤติกรรมของผู้ใช้ รวมไปถึงบอกแหล่งที่มาของการเข้าชม และอื่นๆ อีกมากมายเลยครับ นับว่าเป็นเครื่องมือฟรีที่สะดวกและครบวงจรมากจริง ๆ ครับ
- Matomo : เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์โอเพนซอร์ส เครื่องมือนี้เป็นทางเลือกสำหรับ Google Analytics โดยจะเน้นความเป็นส่วนตัวของข้อมูลมากขึ้นครับ
- SEMrush : เครื่องมือวิเคราะห์ SEO เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณติดตามอันดับคีย์เวิร์ด, วิเคราะห์คู่แข่ง และทำการตลาดออนไลน์ไปพร้อมกันได้ครับ
- Ahrefs : เครื่องมือวิเคราะห์ SEO อีกตัว ที่จะช่วยให้คุณวิเคราะห์ backlink, ค้นหาคีย์เวิร์ด และติดตามอันดับคีย์เวิร์ดได้
- Hotjar : เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ จะช่วยให้คุณดูได้ว่าผู้เข้าชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ของคุณอย่างไร
- Crazy Egg : เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้อีกตัว ที่จะช่วยให้คุณดูแผนที่ความร้อน (heatmaps) ของเว็บไซต์ได้
- Adobe Analytics : เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์แบบครบวงจร เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่
- Piwik PRO : เครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์แบบ Enterprise ที่เน้นความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
- SimilarWeb : เครื่องมือวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์ ที่จะช่วยให้คุณเปรียบเทียบเว็บไซต์ของคุณกับเว็บไซต์ของคู่แข่งได้
- Wappalyzer : เครื่องมือวิเคราะห์เทคโนโลยีเว็บไซต์ ที่จะช่วยให้คุณดูได้ว่าเว็บไซต์นั้น ๆ ใช้เทคโนโลยีอะไร
ผลลัพธ์จากการติดตามการเข้าถึงและผลการค้นหาคำค้นหาที่เกี่ยวข้อง จะทำให้คุณสามารถประเมินได้ว่าการทำ SEO ประสบความสำเร็จหรือไม่
และเก็บความผิดพลาดนั้นมาปรับแก้ไขเนื้อหา หรือเลือก Keyword ในการสร้างบทความ หรือคอนเทนต์ครั้งต่อไปได้ตามความเหมาะสม
จบกันไปแล้วนะครับ เทคนิคการทำ keyword Research ง่าย ๆ ที่มือใหม่ควรรู้จัก
ผมเชื่อว่า หลังจากที่นักการตลาด SEO มือใหม่ได้เริ่มต้นศึกษาเทคนิคการทำ keyword Research เหล่านี้แล้ว
ทุกคนจะสามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้และต่อยอดกับการทำ SEO บทความ หรือคอนเทนต์ของตนเอง ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในอนาคตได้อย่างแน่นอนครับ
แต่ถ้าคุณอ่านมาทั้งหมดแล้วก็ยังมีข้อที่ไม่เข้าใจ และคิดว่าการทำ Keyword Research นั้นยังยุ่งยากเกินตัวไปสำหรับคุณ ติดต่อเรามาสิครับ เรามีทีมงานมืออาชีพที่สามารถช่วยซัพพอร์ตในด้านการตลาดออนไลน์ของคุณได้ ติดต่อสอบถามได้ที่
คลิกที่นี่ 🔻
IMPEL MARKETING บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์
IMPEL MARKETING จากประสบการณ์ ด้านการตลาดออนไลน์มากกว่า 10 ปี
เราจะให้คำปรึกษาถึงแก่นการทำตลาดออนไลน์ให้คุณมียอดขายถึงขีดสูงสุดในทุกประเภทสินค้าและบริการ
- รับปรึกษาการตลาดสำหรับแบรนด์
- บริการโฆษณาออนไลน์
- รับทำเว็บไซต์
- รับเขียน App และระบบ IT สำหรับธุรกิจ SME
- รับทำ Content Marketing
- รับออกแบบกราฟิก / ทำสื่อสิ่งพิมพ์
- รับตัดต่อ ถ่ายภาพ / VDO / สื่อภาพเคลื่อนไหว
- รับแปล VDO หรือเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย
การันตีผลงานทีมงานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีเราสร้างยอดขายให้ธุรกิจมากกว่า 10 แบรนด์ ยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท